ภูเก็ตไม่ได้มีแค่ชายหาดที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสวรรค์ของคนรักอาหาร โดยมีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกสรร ทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารนานาชาติ อาหารท้องถิ่นมีต้นกำเนิดจากประวัติศาสตร์ที่มีสีสันของภูเก็ต โดยผสมผสานรสชาติและกรรมวิธีของอาหารไทย จีน อินเดีย และมลายูเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นอาหารในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ร้านอาหารตู้กับข้าว (Tu Kab Khao) ตั้งอยู่ในอาคารทรงจีนโปรตุเกสที่มีอายุ 130 ปี และมีความโดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในที่งดงาม เฟอร์นิเจอร์สไตล์ย้อนยุค โคมไฟระย้าที่ระยิบระยับ จานชามเคลือบสีขาวและน้ำเงิน และพระบรมฉายาลักษณ์ติดอยู่บนผนัง รายการอาหารที่หลากหลายของที่นี่ได้รับรางวัลมิชลินเพลท (Michelin Plate) และเป็นตำรับอาหารปักษ์ใต้ที่สืบทอดจากมารดาของเจ้าของร้าน อย่าพลาดชิมเมนูเด็ดของร้าน เช่น หมูฮ้องรสเข้มข้น หมี่แกงปู รสจัดจ้าน และแกงส้มปลาที่เผ็ดร้อน บาร์ที่อยู่ด้านหลังของร้านเสิร์ฟค็อกเทลคลาสสิกหลายชนิดโดยเสริมลูกเล่นสมัยใหม่ และมีการแสดงดนตรีสดเกือบทุกคืน
![]() ![]() ![]() |
---|
ร้านอาหารดีบุก้า (Dibuka) ซึ่งแปลว่า “สวัสดี” ในภาษามลายู เป็นแกสโตรผับที่มีการแสดงดนตรีสด และมีการตกแต่งภายในที่งดงามโดยได้รับแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมการขุดแร่ดีบุกของภูเก็ต รายการอาหารมีทั้งอาหารนานาชาติและอาหารท้องถิ่นแท้ๆ เช่น ข้าวคลุกกะปิ เมี่ยงส้มโอ และแกงส้ม ทั้งยังมีบาร์ที่เสิร์ฟค็อกเทลคลาสสิกและค็อกเทลทีเด็ดของร้านหลากหลายชนิด
![]() ![]() ![]() |
---|
ร้านอาหารระย้า (Raya) ตั้งอยู่ในบ้านทรงจีน-โปรตุเกส 2 ชั้น ภายในมีบรรยากาศที่ดี ด้วยหน้าต่างสีอ่อน พื้นโมเสก เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบย้อนยุค และโปสเตอร์เซี่ยงไฮ้ยุค 1930 ร้านนี้มี 2 สาวพี่น้องที่ช่วยกันเสิร์ฟอาหารปักษ์ใต้ที่เผ็ดร้อนของไทย และได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ (Michelin Bib Gourmand) ลองเริ่มด้วยแกงปูใบชะพลูที่เข้มข้น และปลากระพงเจี๋ยนตะไคร้ และอย่าพลาดชิมน้ำพริกกุ้งเสียบ กับไข่เจียวหมูกรอบ
ร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ (Blue Elephant) ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเสิร์ฟอาหารไทยแบบพิถีพิถันในอาคารทรงจีนโปรตุเกสอายุ 115 ปีอันน่าทึ่ง ซึ่งเคยเป็นบ้านของตันม้าเสียง ชาวจีนผู้เป็นขุนนางด้านการทำเหมืองแร่ดีบุก ที่นี่โดดเด่นในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ประตูที่แกะสลักอย่างปราณีต และพื้นลายตารางหมากรุก ไปจนถึงช้อนส้อมที่ทำจากทองเหลือง และบริการขั้นสุดยอด รายการอาหารที่หลากหลายเป็นการรวบรวมอาหารปักษ์ใต้คลาสสิกของไทย อาหารเปอรานากันที่หายาก และอาหารที่ได้ชื่อว่าเป็น “ครัวไทยแห่งอนาคต” เช่น “หอยเชลล์กอและ” “แกะกะเพรา” และ “ตับห่านซอสมะขาม”
อีกร้านหนึ่งที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบ กูร์มองด์ คือร้านโกเบนซ์ที่มีชื่อเสียงเรื่องข้าวต้มแห้ง ปรุงตามตำรับโบราณของตระกูล หากอดทนรอคิวที่ยาวได้ คุณจะรู้สึกว่าคุ้มค่าแน่นอน อาหารจานเด็ดคือข้าวหอมมะลิที่หุงแบบไร้ที่ติโดยมีน้ำข้าวต้มเพียงเล็กน้อย โรยด้วยลูกชิ้นหมู หมูกรอบ และเครื่องในต่างๆ หรือจะลองสั่งข้าวต้มกระดูกหมู ก็อร่อยเหาะเช่นกัน